Privacy Policy

โรงแรม Sing Golden Place Hotel ดำเนินการโดย บริษัท สิงห์ไทยวัฒนา จำกัด (ต่อไปจะเรียกว่า "โรงแรม") ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการอย่างมาก พวกเราปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง และมุ่งมั่นที่จะดำเนินการและจัดการข้อมูลดังกล่าวอย่างเหมาะสมดังต่อไปนี้ เรามีความปรารถนาที่จะให้ผู้ใช้บริการของเรามีความมั่นใจว่าทางโรงแรมปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (ต่อไปจะเรียกว่า PDPA) พื้นฐานทางกฎหมาย คือจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ สำหรับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ ต้องมีความจำเป็นเท่านั้น เช่น ความจำเป็นในการดำเนินการตามข้อตกลงกับผู้ใช้บริการ ความจำเป็นในการดำเนินการตามขั้นตอนที่ผู้ใช้บริการร้องขอก่อนที่จะทำข้อตกลง ความจำเป็นของโรงแรมในการปฏิบัติตามภาระผูกพันทางกฎหมาย หรือความจำเป็นที่จะต้องติดตามผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายตามที่ร้องขอโดยโรงแรมหรือบุคคลที่สามที่หมายถึงการเพิ่มผลกำไรผ่านการดำเนินงานโฆษณาและการตลาด และบริการตลอดจนการปรับปรุงความสะดวกและปลอดภัยของเว็บไซต์โรงแรมเท่านั้น

1.    การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

      โรงแรมจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งอำนวยความสะดวกและผลิตภัณฑ์ของโรงแรม (การเข้าพักค้างคืน, การกินและดื่ม, งานเลี้ยง, งานประชุม, และการให้บริการที่เกี่ยวข้อง) โดยใช้วิธีการต่อไปนี้ :
      1)    การเก็บโดยตรงจากผู้ใช้บริการ
            การสนทนาโดยตรง, การสนทนาทางโทรศัพท์, เอกสาร (รวมถึงอีเมลล์), นามบัตร, การกรอกข้อมูลเว็บไซต์ของ Sing Golden Place เป็นต้น
      2)    การเก็บรวบรวมจากบุคคลที่ได้รับมอบจากผู้ใช้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
            ผู้ลงทะเบียนแทนที่ระบุตัวตนได้ทั้งจากผู้ใช้บริการ และทางโรงแรม, ผู้ให้บริการท่องเที่ยว, และ อื่นๆ

2.    วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

      โรงแรมจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ สำหรับวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ นอกจากกรณีที่ใช้เพื่อประโยชน์ตามกฎหมายหรือระเบียบหรือวัตถุประสงค์อื่นที่เกี่ยวข้องที่ระบุโดยแยกต่างหาก
      1)    วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ที่ขึ้นอยู่กับข้อผูกพันจากข้อตกลงกับผู้ใช้บริการ
            1.1)    การทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับการบริการของโรงแรม (การเข้าพัก, งานเลี้ยง, อาหารและเครื่องดื่ม, และบริการที่เกี่ยวข้องรวมถึงการจัดงานกิจกรรมต่างๆ), การจัดการหนี้ค่าใช้จ่ายเหล่านั้น และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อบังคับ
            1.2)    การจัดการลงทะเบียนข้อมูลของผู้ใช้บริการเพื่อการให้บริการ
            1.3)    การตอบคำถามและคำขอที่โรงแรมได้รับ
            1.4)    การบันทึกและจัดเก็บข้อมูลการลงทะเบียนผู้ใช้บริการตามที่กำหนดในกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ
      2)    วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ที่ขึ้นอยู่กับการยินยอมจากผู้ใช้บริการ
            2.1)    เพื่อให้มั่นใจว่ามีการให้ข้อมูลและการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมบนเว็บไซต์ของโรงแรม ตลอดจนการวิเคราะห์ทางสถิติที่เกี่ยวข้องกับการจัดการและการพัฒนาเว็บไซต์ โดยอิงตามข้อมูล เช่น คุกกี้ ที่อยู่ IP ประเภทของเบราว์เซอร์ และวันที่และเวลาในการเข้าถึงรวบรวมผ่านเว็บไซต์ของโรงแรม
            2.2)    โรงแรมจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดดังต่อไปนี้โดยได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ
                  2.2.1)    การแจ้งเตือนและการส่งข้อมูล โฆษณา แบบสอบถาม หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการของโรงแรมตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ให้กับผู้ใช้บริการผ่านทางอีเมล ไปรษณีย์บริการจัดส่ง โทรศัพท์ โทรสาร หรือวิธีการอื่น ๆ
                  2.2.2)    เพื่อเข้าใจสถานการณ์การใช้บริการของโรงแรม เราจะวิเคราะห์ประวัติการเข้าชม ประวัติการทำธุรกรรม และอื่นๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุง การพัฒนา และการตลาดเกี่ยวกับการบริการแก่ผู้ใช้บริการ
*โรงแรมจะไม่สามารถรับรู้ถึงข้อมูลเชิงสถิติเพื่อผลประโยชน์ด้านการพัฒนาการบริการของโรงแรมในทุกด้าน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการในการข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง

3.    ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล

      โรงแรมต้องการข้อมูลต่อไปนี้เพื่อให้บริการที่พักให้แก่ลูกค้าโดยเฉพาะรายการที่ต้องจดบันทึกในทะเบียน โรงแรมจะต้องเก็บรักษาเป็นเวลา 1 ปีตามกฎหมาย ในบางกรณี โรงแรมอาจไม่สามารถให้บริการที่พักแก่ผู้ใช้บริการรที่ไม่สามารถให้ข้อมูลนี้ได้

ข้อมูลส่วนบุคคลที่รวบรวมและเก็บรักษาโดยโรงแรมจะรวมถึงสิ่งต่อไปนี้
      1)    ข้อมูลการติดต่อ (ที่อยู่ ชื่อ เพศ วันเกิด สัญชาติ ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์)
      2)    ข้อมูลเฉพาะของบุคคล (วันเดือนปีเกิด เลขหนังสือเดินทาง เลขบัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ)
      3)    ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ติดตาม หรือผู้ที่อยู่ในความดูแล ( ชื่อ วันเกิด อายุ หมายเลขโทรศัพท์)
      4)    ข้อมูลธุรกรรมการเงินและการจอง (ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรเครดิต อีเมล เบอร์โทรศัพท์)  
      5)    ข้อมูลการเดินทาง(กำหนดการเข้าพักและเช็กเอ้าท์)
      6)    ข้อมูลผู้เด็ก (ผู้เยาว์ที่ไม่เกิน 10 ปี หรือยังผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ)
      7)    ข้อมูลความชอบและความสนใจ (บริการเสริมอื่นๆ ที่ทำระหว่างพัก เช่น เล่นโยคะ ฟิตเนส ขี่จักยาน พายเรือ ดำน้ำ ร้องเพลง ดื่มเครื่องดื่ม หรือแม้แต่เมนูอาหารที่สั่งทำขั้นเป็นพิเศษ)
      8)    ข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ต (การเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ ที่อยู่ IP, คุกกี้ หมายเลขอุปกรณ์เข้าสู่ระบบเครือข่าย บัญชีโซเชียลมีเดีย เป็นต้น)
      9)    ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด CCTV (รูปภาพนิ่ง วิดีโอที่โรงแรมทีการบันทึกไว้ในช่วงที่ลูกค้ามาใช้บริการ)
      10)    ข้อมูลคำถาม/ความคิดเห็น (การตอบแบบสอบถามระหว่างเข้าพักหรือหลังจากเข้าพัก)

*หากบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีให้ข้อมูลส่วนบุคคล การให้ข้อมูลดังกล่าวต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองหรือผู้ปกครองเสมอ

4.    ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

      โรงแรมจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากผู้ใช้บริการเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี ตามกฎหมาย หรือมากกว่าหากมีเหตุที่จำเป็น เช่น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการได้มาและการประมวลผล ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล และความจำเป็นทางกฎหมายหรือทางธุรกิจในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

5.    การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

      โรงแรมจะพยายามรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้องและทันสมัยตามขอบเขตที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการใช้งาน และจะใช้มาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมเพื่อป้องกันการเปิดเผย การสูญหาย หรือความเสียหายของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต และรับรองการจัดการที่ปลอดภัยของข้อมูลดังกล่าวโดยแต่งตั้งผู้รับผิดชอบและรับผิดชอบในการจัดการข้อมูล และทำบันทึกสำเนาการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทำการตรวจสอบ เราจะลบข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ไม่จำเป็นโดยทันที 

6.    การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สามและการใช้งานร่วมกัน

      โรงแรมจะไม่เปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการรายใด ๆ ของเรา เว้นแต่จะเป็นไปตามข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ และจัดทำบันทึกรายการกิจกรรมการประมวลผลหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบและป้องกันการละเมิดกฎหมาย กรณีเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม
      1.)    การเปิดเผยหรือการถ่ายโอนเป็นไปตามที่ผู้ใช้บริการให้ความยินยอม
      2.)    จำเป็นต้องเปิดเผยหรือถ่ายโอนตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต
      3.)    จำเป็นต้องมีการเปิดเผยหรือถ่ายโอนเพื่อจุดประสงค์ในการปกป้องชีวิตมนุษย์ การป้องกันการบาดเจ็บ หรือการปกป้องทรัพย์สิน และไม่สามารถขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการได้โดยง่าย
      4.)    การเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลอาจเกิดขึ้นตามความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทางการของรัฐบาลระดับชาติหรือระดับท้องถิ่น และการได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการอาจเป็นผลดีต่อการดำเนินการ
      5.)    การเปิดเผยหรือการถ่ายโอนข้อมูลทางสถิติ (เป็นข้อมูลที่ใม่ได้ระบุตัวตนผู้ใช้บริการ)
      6.)    การเปิดเผยหรือการโอนเกิดขึ้นโดยเกี่ยวข้องกับการสืบทอดธุรกิจ รวมถึงการควบรวมกิจการ การแยกธุรกิจ หรือการโอนธุรกิจ

      7.)    การเปิดเผยหรือการโอนถ่ายข้อมูลไปยังบุคคลที่สามในกรณีที่โรงแรมต้องการใช้บริการจากบริษัทภายนอก เช่น บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือบริการผู้ดูแลด้านการตลาด ซึ่งวัตถุประสงค์ในการใช้จะอยู่ในขอบเขตบริการที่ได้รับจากบริษัทภายนอกเท่านั้น

7.    การรวบรวมและการใช้ประวัติการเข้าชมและกิจกรรมของผู้ใช้บริการบนเว็บไซต์นี้

      โรงแรมกำลังวางโฆษณา behavioral targeting advertising และโฆษณา retargeting advertising บนเว็บไซต์เฉพาะโดยใช้โปรแกรมที่จัดทำโดยผู้ให้บริการบุคคลที่สาม เช่น ผู้ให้บริการโฆษณา และที่ปรึกษาด้านการวิเคราะห์ตลาด
      1)    การโฆษณา behavioral targeting advertising เป็นวิธีการกระจายโฆษณาที่เหมาะสมกับความสนใจของผู้ใช้แต่ละราย โดยพิจารณาจากประวัติการค้นหาและข้อมูลการเรียกดูเว็บไซต์ของผู้ใช้แต่ละคน
      2)    การโฆษณาแบบ retargeting advertising เป็นวิธีการที่ผู้ให้บริการบุคคลที่สามเผยแพร่โฆษณาไปยังผู้ใช้ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์มาก่อน เช่น ผู้ให้บริการโฆษณาอาจรวบรวมและใช้ข้อมูลคุกกี้ และอื่นๆ ของผู้ใช้บริการที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา
      3)    อ่านรายละเอียดสำหรับ ข้อมูลคุกกี้ ได้ที่นี่

8.    มาตรการการจัดการความปลอดภัย

      โรงแรมใช้มาตรการต่อไปนี้เพื่อป้องกันการรั่วไหล การสูญหาย หรือความเสียหายของข้อมูลส่วนบุคคลและการจัดการที่เหมาะสมอื่นๆ
      1)    การกำหนดนโยบายพื้นฐาน
เราได้จัดทำนโยบายพื้นฐานนี้ขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่ามีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และเพื่อแจ้งให้คุณทราบถึงการจัดการของโต๊ะบริการเกี่ยวกับคำถามและข้อร้องเรียน
      2)    การพัฒนาระเบียบวินัยเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
กำหนดกฎการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับวิธีการจัดการ ผู้รับผิดชอบ / บุคคลที่รับผิดชอบ และหน้าที่ในแต่ละขั้นตอนของการได้มา การใช้ การจัดเก็บ การจัดเตรียม การลบ / การกำจัด และอื่นๆ
      3)    มาตรการการจัดการความปลอดภัยขององค์กร
            3.1)    จัดตั้งบุคคลที่รับผิดชอบในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล (ผู้จัดการข้อมูลส่วนบุคคล)
            3.2)    ชี้แจงช่วงของพนักงานที่จัดการข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่พนักงานจัดการ
            3.3)    สร้างระบบสำหรับการรายงานและติดต่อบุคคลที่รับผิดชอบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อเข้าใจข้อเท็จจริงหรือสัญญาณที่ละเมิดกฎหมายหรือข้อบังคับภายใน
            3.4)    ตรวจสอบสถานการณ์การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ และดำเนินการตรวจสอบโดยแผนกอื่นและบุคคลที่สาม
      4)    มาตรการการจัดการความปลอดภัยของมนุษย์
            4.1)    จัดการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอสำหรับพนักงานเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
            4.2)    การรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลได้มีกฎบังคับอธิบายไว้ในข้อบังคับการทำงาน
      5)    มาตรการการจัดการความปลอดภัยทางกายภาพ
            5.1)    ในพื้นที่ที่มีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เราจะควบคุมการเข้าและออกของพนักงาน และจำกัดอุปกรณ์ที่พวกเขานำเข้า และใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
            5.2)    ใช้มาตรการป้องกันการโจรกรรมหรือการสูญหายของอุปกรณ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
            5.3)    เมื่อพกพาอุปกรณ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการถ่ายโอนภายในสำนักงาน ให้ใช้มาตรการเพื่อป้องกันการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
      6)    มาตรการการจัดการความปลอดภัยทางเทคนิค
            6.1)    ใช้การควบคุมการเข้าถึงเพื่อจำกัดขอบเขตของข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดการโดยบุคคลที่รับผิดชอบ
            6.2)    แนะนำเทคโนโลยีในการการปกป้องระบบข้อมูลส่วนบุคคลจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือจากซอฟต์แวร์จากภายนอก

9.    สิทธิของผู้ใช้บริการ

      ผู้ใช้บริการจะมีสิทธิตามกฎหมายในการทำธุรกรรมกับโรงแรมดังต่อไปนี้ ผู้ใช้บริการสามารถใช้สิทธิ์เหล่านี้ได้โดยติดต่อสอบถามการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในข้อ 13 ของนโยบายความเป็นส่วนตัว โดยโรงแรมจะตอบสนองต่อการใช้สิทธิดังกล่าวโดยสุจริตหลังจากยืนยันว่าผู้ใช้บริการได้ใช้สิทธิด้วยตนเอง เว้นแต่จะอยู่ภายใต้ข้อยกเว้นที่กฎหมายอนุญาต

      1)    สิทธิ์ของผู้ใช้บริการในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง
สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลหากโรงแรมยืนยันว่าข้อมูลของผู้ใช้บริการถูกนำมาใช้
     2)    สิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์ของผู้ใช้บริการในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไม่ถูกต้อง
     3)    สิทธิ์ในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์ของผู้ใช้บริการในการลบข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้เงื่อนไขบางประการ
     4)    สิทธิ์ในการจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์ของผู้ใช้บริการในการจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้เงื่อนไขบางประการ
     5)    สิทธิ์ในการยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์ของผู้ใช้บริการในการยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายที่กลุ่มโรงแรมหรือบุคคลที่สามต้องการ

      ผู้ใช้บริการพสามารถถอนความยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนได้ตลอดเวลา การถอนนี้จะไม่มีผลต่อความถูกต้องของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ดำเนินการตามความยินยอมก่อนถอน ลูกค้าสามารถถอนความยินยอมได้โดยการติดต่อสอบถามที่เจ้าหน้าที่ควบคุมความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของเราที่กล่าวถึงในข้อที่ 13 ของนโยบายความเป็นส่วนตัว

10.    การยื่นคำร้องเรื่องการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลไปยังหน่วยงานทางการ

      ผู้ใช้บริการสามารถยื่นคำร้องเรื่องการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลโดยโรงแรมได้กับหน่วยงานของประเทศ ภูมิภาค หรือองค์การระหว่างประเทศตามกฎหมายที่ใช้บังคับ

11.    การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศที่สาม

      โรงแรมอาจถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับไปยังประเทศอื่นๆ เพื่อปฏิบัติตามสัญญากับผู้ใช้บริการหรือปฏิบัติตามขั้นตอนที่ร้องขอโดยผู้ใช้บริการก่อนที่จะสรุปสัญญา ได้เท่าที่กฎหมายกำหนดเพียงเท่านั้น เพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สิน เมื่อถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปยังประเทศที่สามนอกประเทศไทย โรงแรมจะจัดการข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยและการรักษาความลับที่เหมาะสมภายใต้กฎหมาย ไม่ว่าประเทศปลายทางอาจมีหรือไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลเดียวกันกับประเทศไทย

12.     การแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว

      โรงแรมอาจแก้ไขเนื้อหาของนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ในกรณีดังกล่าว นโยบายล่าสุดจะถูกโพสต์บนเว็บไซต์ของโรงแรมทันที นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับแก้ไขจะมีผลเมื่อโรงแรมโพสต์นโยบายดังกล่าวบนเว็บไซต์ของโรงแรม

13.    การติดต่อ Sing Golden Place

      หากท่านมีข้อสงสัยหรือมีข้อกังวลเกี่ยวกับประกาศนี้ หรือมีคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้ของ Sing Golden Place  สามารถติดต่อ Sing Golden Place ได้ที่
โรงแรมสิงห์โกลเด้นเพลส 16/1 ถนนผดุงภักดี ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110
หมายเลขโทรศัพท์ 074-232-333 หรือ 088-258-9350